Tag Archives: หยกแท้

หยกพม่า คืออะไร ?

หยกพม่า คืออะไร ?

หยกพม่า เป็นอัญมณีสิ่งล้ำค่าที่อยู่คู่กับชาวไทยมาอย่างยาวนานแล้วนะคะ และเชื่อว่าหลายๆคนก็ต้องอยากได้หยกชิ้นนี้มาไว้ครอบครองเช่นกัน

หยกพม่ามีความแตกต่างจากหยกจีน โดยสิ่งที่ชัดเจนที่สุดก็คือเรื่องของราคาเพราะว่าหยกพม่าเป็นหยกที่ได้รับการรับรองจากทางอัญมณีศาสตร์ว่าเป็นหยก แต่หยกจีนไม่ได้รับการรับรอง จึงถือว่าเป็นหินสีเขียว จึงทำให้หยกของพม่ามีราคาสูงกว่ามากๆและมีความต้องการสูงกว่า

หยกของพม่านั้นจะมีหลากหลายสีมากมายให้เลือกใส่ แต่ถ้าเป็นของจีน จะเป็นโทนสีเขียวๆ แต่ของพม่านี่มีให้เลือกตั้งขาว เหลือง อมฟ้า มากมาย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มีราคาสูงกว่า

หยกพม่า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำไลข้อมือก็เป็นหนึ่งในเครื่องประดับที่ได้รับความนิยมทำมาจากหยก ซึ่งจะต้องเป็นของพม่าแน่นอนเพราะ หยกจีนมีความเปราะมากจึงไม่สามารถขึ้นรูปออกมาเป็นกำไลข้อมือได้

ด้วยความที่ราคาสูง และมีความต้องการมากจึงไม่แปลกเลยที่จะมีของปลอมทำขึ้นมามากมายในตลาดอัญมณีของประเทศเรา โดยวิธีการแยกที่ง่ายสุดคือดูด้วยตาเปล่า แยกจากสีโดยอาจจะเทียบจากของแท้ และศึกษาด้วยว่าสีไหนที่มีการทำปลอมมากๆ (ซึ่งสีที่ทำปลอมกันเยอะก็มักจะเป็นสีขาว สีเขียวอ่อน)

หยกพม่ามีแหล่งกำเนิดตามชื่อเลยก็คือที่ประเทศพม่า ซึ่งก็ขุดได้ที่ประเทศพม่า (สมัยก่อนจะมีของประเทศจีนด้วยแต่เนื่องจากหมดแล้วจึงทำให้เหลือแค่เพียงที่พม่าที่เดียว) และทางประเทศพม่าเองก็มักจะนำหยกที่ขุดขึ้นมาได้ขายส่งต่อไปยังประเทศจีน เพราะจีนเป็นประเทศที่ชื่นชอบและให้ความสำคัญหยกเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นอัญมณีนำโชคของพวกเค้า

หยกชนิดนี้มีความเชื่อกันว่าถ้าใครได้ครอบครอง จะช่วยนำความร่ำรวย และคุ้มครองรักษาผู้ครอบครอง ยิ่งชาวไทยเชื้อสายจีนก็จะต้องมีความสนใจในหยกจากประเทศนี้อย่างแน่นอน

หยกจีน คืออะไร ?

หยกจีน คืออะไร ?

หยกจีน นั้นมีแหล่งกำเนิดมาจากหลายๆประเทศนะคะ เช่น จีน แคนาดา และอีกหลายๆประเทศ เพราะเป็นหินสีที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก ซึ่งสิ่งที่เค้ามักจะนำมาใช้กับหยกจีนก็คือ นำมาแกะสลักนะคะ

เพราะหยกจีนมีความแข็งแรงมาก อีกทั้งเปราะด้วย จึงทำให้มีการนำหยกชนิดนี้มาทำแกะสลัก เป็นพระพุทธรูป อย่างเช่น พระแก้วมรกตของไทยเราก็ทำมาจากหยกจีนเหมือนกันนะคะ

โดยหยกชนิดนี้จะยังไม่ได้รับการรองรับจากทางอัญมณีศาสตร์ว่าเป็นหยก เพราะฉะนั้นตอนนี้จึงเป็นแค่หินสีแต่เพียงเท่านั้น ซึ่งก็มีหลากหลายสี เช่นสี ดำ น้ำตาล เขียว และอื่นๆ แต่โดยรวมสีก็จะไม่เยอะและหลากหลายเท่าหยกพม่า

หยกจีน

หยกจีนมีความแข็งและเปราะ จึงนำมาทำเป็นเครื่องประดับ เช่น แหวน และ จี้เช่นเดียวกัน แต่จะไม่นำมาทำเป็นกำไล เพราะมีความเปราะ จึงไม่สามารถขึ้นรูปได้ เพราะงั้นถ้าเป็นกำไลหยกที่มีคนบอกว่ามาจากหยกจีนล่ะก็ ก็พึงคิดไว้เลยว่าอาจจะเป็นของปลอม

แต่อย่างไรก็ดี ก็เคยมีหยกที่นำมาเป็นกำไลอยู่เช่นกัน แต่เคยทำมาแค่ตอนมอบรางวัลในพิธีโอลิมปิกให้แก่ผู้ชนะ จึงทำให้ราคาสูงถึง 50ล้านบาทต่อชิ้น ซึ่งก็คงไม่ได้มีหาซื้อได้ในตลาดทั่วไป

ถ้าเราลองเอากล้องส่องพระส่องเข้าไปในหยกจีนล่ะก็ ก็จะพบเป็นผลึกที่เป็นริ้วๆ เห็นได้ชัดเจน ก็ทำให้ชัวร์ว่านี่คือหยกชนิดนี้แน่นอน ซึ่งอาจจะไม่มีคุณค่าเท่าหยกพม่า จึงทำให้ราคาต่ำกว่าค่อนข้างมาก

หยกเกาหลี เป็นหยกแบบไหน ?

หยกเกาหลี เป็นหยกแบบไหน ?

ตามท้องตลาดอัญมณีในประเทศไทย ก็จะมีหยกหลายๆแบบ ไม่ว่าจะเป็นที่ราคาสูงๆ อย่างหยกพม่า รวมไปถึง หยกเกาหลี ที่จะมาพูดถึงให้ฟังในคราวนี้ค่ะ

ต้องบอกก่อนนะคะว่า หยกเกาหลี นั้นเป็นหยกปลอมที่ทำขึ้นมาจากเรซิ่น ก็คือสังเคราะห์เพื่อให้ขึ้นทรงเป็นรูปร่างขึ้นมา เพราะถ้าเป็นหยกแท้อย่างหยกพม่า เราก็จะต้องขุดในประเทศพม่าเท่านั้น

หยกเกาหลี

หยกเกาหลี ไม่มีส่วนผสมที่เกี่ยวข้องกับหยกจริงเลย ทำสีก็สีเขียวเหมือนหยกจักรพรรดิมาก แต่เพื่อที่จะไม่เรียกว่าเป็นหยกปลอม ในตลาดก็เลยตั้งชื่อเก๋ๆขึ้นมาว่า หยกเกาหลี เพื่อเลี่ยงคำว่าของปลอมออกไป

วิธีแยกหยกจักรพรรดิและหยกปลอม โดยวิธีแรกก็คือใช้กล้องส่องพระ ถ้าส่องแล้วของเกาหลีจะเห็นเป็นเส้นใยเป็นร่างแหทั่วทั้งชิ้น แต่ถ้าเป็นของแท้ จะบางๆเป็นเหมือนรากผักชี เพราะงั้นถ้าคุณจะไปซื้อหยกจักรพรรดิและหลีกเลี่ยงของปลอม ก็ควรจะนำกล้องส่องพระไปส่องด้วยนะคะ

สรุปก็คือ ถ้าจะซื้อใส่ก็เพื่อความสวยงามเท่านั้น เพราะของปลอมก็คงจะไม่มีคุณค่าหรือมีพลังอำนาจเหมือนของจริงเพียงแน่แท้ เพราะสุดท้ายแล้วหยกเกาหลีก็เป็นหยกที่ทำปลอมหยกจักรพรรดิเพียงเท่านั้น ใครจะไปซื้อเครื่องประดับชนิดนี้ก็ต้องศึกษาเรื่องนี้และระวังไว้ด้วยนะคะ