พลอยยอดนิยมในตระกูล คอรันดัม ( corundum )

            พลอยในตระกูล คอรันดัม จัดเป็นกลุ่มพลอยที่เกิดจากสารประกอบ( Al2O3) อะลูมิเนียมออกไซด์หรือเรียกสั้นๆว่าอลูมินา  ซึ่งพลอยในตระกูลนี้จัดได้ว่ามีคุณภาพดีที่สุดสำหรับการทำเป็นเครื่องประดับเพราะมีสีสันสวยงามมีความแวววาวตามธรรมชาติ แข็งแรงทนทานและทนต่อการขีดข่วนได้ดี ถ้ามีการจัดอันดับความแข็งและให้ขีดความสามารถในความแข็งแรงของเพชรมีคะแนนเต็มเท่ากับ 10   พลอยในตระกูลคอรันดัมจะมีความแข็งแรงอยู่ในระดับ 9   ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับของพลอยแข็งที่เป็นรองเฉพาะเพชรเท่านั้น

พลอยคอรันดัมโดยเนื้อแท้จะเป็นกลุ่มพลอยที่มีลักษณะใสไม่มีสีเนื่องจากมีองค์ประกอบเป็น Al2O3 เพียงอย่างเดียว  แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีธาตุอื่นๆเป็นองค์ประกอบอยู่ในเนื้อองค์ประกอบเหล่านั้นจะเป็นตัวแสดงสีในพลอยเช่น  ทับทิม ซึ่งมีสีแดงเนื่องจากมี Cr 3+ เป็นองค์ประกอบอยู่ภายใน  และไพลินซึ่งมีสีน้ำเงินจะมี Fe 2+(เหล็ก)และ Ti 4+(ไทเทเนี่ยม)

คอรันดัม

โดยปกติแล้วถ้าสภาพแวดล้อมมีสภาวะที่เหมาะสมกับการกำเนิดพลอยในกลุ่มคอรันดัมเนื้อพลอยที่เราได้จะมีความใสและมีสีเข้มเป็นเนื้อเดียวกัน  แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่พลอยอยู่ในสภาวะที่ไม่สมดุลทำให้เนื้อพลอยมีการเปลี่ยนสีแบบไม่สมบูรณ์เกิดขึ้นลักษณะของสีในเนื้อพลอยจะมีการผสมผสานกันระหว่างสีขาวขุ่นร่วมกับที่ปรากฏของพลอยแต่ละชนิดกลายเป็น 3 เฉดสีในพลอยชิ้นเดียวกัน  ก่อให้เกิดเป็นพลอยอีกกลุ่มหนึ่งที่มีลักษณะเด่นของการผสมผสานของสีขาวขุ่นของอลูมิเนียมผสมผสานกับสีของแร่ธาตุตัวอื่นที่เป็นองค์ประกอบอยู่ภายใน  เป็นพลอยอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความสวยงามแบบพลอยธรรมชาติอย่างแท้จริง  ซึ่งเราถือเอาว่าการเกิดสีในเนื้อพลอยเหล่านี้เป็นการพัฒนาของสีพลอยที่เกิดขึ้นแบบไม่สมบูรณ์ซึ่งสีที่ปรากฏอาจเห็นเป็นแถบสีที่ชัดเจนหรือเป็นกลุ่มสีที่ปะปนกันแบบกระจัดกระจาย  กลายเป็นความสวยงามตามธรรมชาติอีกรูปแบบหนึ่ง

เป็นการเปลี่ยนสีที่ไม่สมบูรณ์ของทับทิมเกิดเป็นพลอย “กิมบ่เซียง”  และถ้ามีการเปลี่ยนสีแบบไม่สมบูรณ์ของไพลินจะเกิดเป็นพลอย “นิหร่า” ซึ่งพลอยทั้งสองชนิดนี้เป็นพลอยที่ได้รับความนิยมมากในบ้านเรา  เนื่องจากมีราคาไม่แพงและดูสวยงามเป็นธรรมชาติอีกด้วย  ซึ่งเราสามารถสวมใส่ได้ในทุกๆโอกาสและเหมาะกับการแต่งตัวในทุกสไตล์ และก่อนสวมใส่ เราควรดูเรื่องหลักการ การสวมแหวนโบราณ ด้วยนะคะ

หากคุณสนใจแหวน คอรันดัม สามารถดูได้ที่นี่เลยค่ะ แหวนทองพลอยทับทิมพม่า

กินบ่เซี่ยง และ นิหร่า พลอยเด่นจากเมียนมาร์

ถ้าใครเป็นคนที่ชื่นชอบเครื่องประดับในสไตล์วินเทจเรามักจะได้ยินชื่อของพลอย กินบ่เซี่ยง และ พลอยนิหร่า ซึ่งมีถิ่นกำเนิดใหญ่ๆคือประเทศเมียนมาร์  อันที่จริงแล้วพลอยทั้งสองชนิดนี้เป็นพลอยในตระกูลเดียวกันนั่นคือตระกูลคอรันดัม  ซึ่งจุดเด่นสำคัญของพลอยในกลุ่มนี้คือการเปลี่ยนสีที่ไม่สมบูรณ์ก่อให้เกิดเป็นลักษณะเส้นรูไทล์ลักษณะสีนวล เรียงตัวขนานกันเป็นแถวและบางจุดอาจเห็นว่ามีการไขว้ตัดกันเป็นรูป 6 เหลี่ยมสานกันไปมา ลักษณะของเส้นไหมรูไทล์ที่เกิดอยู่ภายในทำให้เกิดเป็นลักษณะการมองเห็นรูปดาว 6 แฉกบนผิวหน้าของพลอยที่เราเรียกว่า“สาแหรก”และกลายเป็นเอกลักษณ์ของพลอยในกลุ่มนี้

กินบ่เซี่ยง

โดยปกติพลอยกินบ่เซียงและพลอยนิหร่ามักจะมีการเจียระไนแบบหลังเบี้ยเพื่อที่จะสร้างพื้นที่ของหน้าพลอยให้พอเหมาะพอดีกับการปรากฏรูปดาว 6 แฉก  ความสวยงามและความคมชัดของดาวสีทองจะส่งผลต่อราคาของชิ้นงาน   เพราะฉะนั้นช่างที่มีความชำนาญงานจะต้องใช้วิธีการตัดเนื้อพลอยในจุดที่ถูกต้อง ซึ่งจะต้องใช้ความชำนาญมากเป็นพิเศษในการหาจุดตัดของพลอยตามแกนบังคับ เมื่อแบ่งพลอยออกเป็นชิ้นเล็กๆแล้วลักษณะการทอดตัวของเส้นไหมรูไทล์จะอยู่ในระนาบเดียวกันจึงจะทำให้เรามองเห็นลักษณะของดาวหกแฉกได้อย่างชัดเจน  ที่สำคัญกว่านั้นช่างจะต้องมีความชำนาญมากพอในการเจียระไนให้จุดที่มองเห็นดวงดาวอยู่บริเวรณกึ่งกลางของชื้นงานพอดีจึงจะได้ราคาดีที่สุด

และสำหรับผู้สวมใส่เครื่องประดับที่เน้นในเรื่องของคุณสมบัติอันโดดเด่นของพลอยในกลุ่มนี้ ก็ควรที่จะต้องพิจารณาถึงสีของเนื้อพลอยและลักษณะการเกิดดาว 6 แฉกเป็นสำคัญ  แต่ถ้าเราไม่ได้เฉพาะเจาะจงในเรื่องของความโดดเด่นตรงนั้นเราก็จะได้เครื่องประดับจากพลอยสีแปลกตาที่แม้ว่ามันจะไม่ได้ส่องประกายระยิบระยับเหมือนอย่างเพชร ทับทิมและไพลิน แต่มันจะให้สีที่คลาสสิกตามธรรมชาติของพลอยแท้ได้อย่างยอดเยี่ยม เชื่อมั่นได้เลยว่ามันสร้างเสน่ห์ให้ผู้สวมใส่ได้อย่างแน่นอน  เพราะมันมีความพิเศษที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถ้าได้รับการออกแบบให้อยู่คู่กับตัวเรือนที่เป็นสไตล์วินเทจ มันจะกลายเป็นเครื่องประดับที่โดดเด่นและสวยงามลงตัวอย่างมากที่สุดทีเดียว

นิหร่า

หลายท่านคงเคยได้ยินคำนี้กันในวงการเครื่องประดับกันมาบ้าง คำว่า นิหร่า นี้ ใช้เรียกเหล่าพลอยไพลินที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านของเราซึ่งก็คือพม่านั่นเอง โดยจะเป็นพลอยไพลินที่มีลักษณะสีที่ไม่สม่ำเสมอ และมีเส้นไหมสีขาวคาดผ่านเนื้อพลอยในรูปแบบที่เป็นหกเหลี่ยม และเส้นไหมสีขาวที่ว่านี้เองที่ทำให้พลอยนิหร่าเม็ดนี้มีสตาร์

หรือเราเรียกอีกอย่างนึงว่ามีขา บางคนอาจจะเรียกว่า สาแหรก พลอยเนื้อแข็งเช่น พลอยไพลิน พลอยทับทิม จะมีสาแหรกหกแฉก บางคนก็เรียกว่ามี 6 ขาซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของตระกูลพลอยเนื้อแข็ง ซึ่งถ้าไม่ใช่ 6 ขา แต่มีเพียงแค่ 4 ขา ก็ขอให้รู้ไว้ว่านั่นไม่ใช่นิหร่าแล้ว แต่อาจจะเป็นอัญมณีประเภทอื่น

คนแก่จะชอบเก็บสะสม นิหร่า คู่กับ กินบ่เซี่ยง เป็นเคล็ดที่จะทำให้ชีวิตมีกินมีใช้ไม่มีวันหมด คนสมัยก่อนเชื่อว่าการนำนิหร่าพม่ามาทำเครื่องประดับนั้น สามารถช่วยคุ้มครองในเรื่องของความปลอดภัยให้กับผู้สวมใส่ได้ ถ้าเป็นสีน้ำเงินไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็มักจะประสบความสำเร็จในชีวิต เดินทางปลอดภัย เป็นผู้มีปัญญา และเมื่อนำมาเจียระไนแบบรูปโค้งหลังเต่า ทำให้เกิดรูปดาวเมื่อต้องแสงไฟ ที่มีต้นกำเนิดเป็นจุดอาจจะทำให้มีหลายสีสัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีความสมบูรณ์และสวยงาม